5 ข้อทำให้บ้านคุณเย็นสบาย
เรามานิยามกันก่อนว่าบ้านที่ไม่ร้อนหรือบ้านที่เย็นเนี่ยเราจะนิยามกันว่าไง เขาให้ตัวเลขกันไว้แบบนี้ บ้านที่เย็นสบายเนี่ย! เดินเข้าบ้านมาปุ๊บอุณหภูมิในบ้านควรจะเย็นกว่าข้างนอกประมาณ 10 องศาเยอะนะครับ เพราะฉะนั้นถ้าเป็นอย่างนั้นได้เนี่ย เราจะรู้สึกเย็นสบายทันทีโดยไม่เกี่ยวกับแอร์นะครับหมายถึง ว่าเรากลับมาจากข้างนอกเดินเข้าบ้านถ้าในบ้านเราเนี่ย อุณหภูมิน้อยกว่าข้างนอกประมาณ 10 องศาเนี่ย โอ้เราไม่ต้องเปิดแอร์ร่างกายเราจะรู้สึกว่ามันเย็นสบายขึ้นมาทันทีเลยนะครับ เพราะฉะนั้นนี่จึงเป็นเป้าหมายของการที่เราจะคุยกันวันนี้
ว่าเฮ้ยเราต้องออกแบบอย่างไร เลือกวัสดุ จัดหรือวางผังอะไรก็ตามที่ทำให้บ้านของเราเนี่ยบรรลุเป้าหมาย ว่าข้างนอกเท่าไหร่ข้างในขอให้น้อยกว่าสัก 10 องศาไม่ถึงก็ไม่เป็นไรแต่ขอให้น้อยกว่า แต่เป้าหมายเราคือที่ 10 องศา อันนี้คือนิยามเราตกลงกันแบบนี้ก่อน
เสร็จแล้วเดี๋ยวตามลุงช่างไปดูทีละข้อกันเลย
ข้อแรกเลยนะครับ
แน่นอนข้อที่ค่อนข้าง จะย้ำเสมอเพราะเรานักออกแบบก็ คือว่าข้อแรกคือการวางผังบ้านการวางตำแหน่งบ้าน ตำแหน่งห้องต่างๆ อันนี้เป็นข้อแรกเลยถ้าเรา จัดการตรงนี้ได้ดีเนี่ยเราจะลดปัญหาไปได้เยอะ ประเทศไทยเป็นเมืองร้อนถ้าตัดหน้าหนาวทิ้ง เหลือแต่หน้าร้อนและหน้าฝนร้อน เราจะมีช่วงเวลาที่มีแดดมีความร้อนสูงถึง 9 เดือนเลยทีเดียว แต่จริงๆลุงช่างว่าอาจจะตีได้ทั้ง 12 เดือนอะไรเลยก็ได้น่ะ? เพราะบางทีหน้าหนาวมา 2 วันนะครับยิ่งเป็นเกาะสมุยด้วยแล้ว แต่ก็อ่ะถือว่าแค่ 9 เดือนตามมาตรฐานครับ
ประเทศไทยเนี่ยพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกนะทุกคนรู้ใช่ไหมครับ บ๊ะบอกทำไมถึงไม่บอกก็รู้อยู่แล้ว!! แต่ทราบรึป่าวว่าพระอาทิตย์ มันออกตะวันออกแล้วมันจะอ้อมใต้ครับ แล้วมันถึงตกลงตะวันตก มันไม่ได้ตะวันออกแล้วไปตกอย่างนี้นะครับ มันจะอ้อมใต้ก่อนแล้วก็วกแล้วก็ไปลงตะวันตกเพราะฉะนั้นถ้ารู้แบบนี้ปุ๊บ อันแน่ทิศที่ร้อนที่สุดคือทิศตะวันตกแน่นอนและทิศใต้ครับ
ส่วนทิศที่แดดเบากว่าคือทิศเหนือและทิศตะวันออกครับ หมายถึงทิศที่แดดน้อยที่สุดตลอดทั้งปีคือทิศเหนือ รู้แค่นี้ช่วยได้เยอะเลยเพราะอะไรรู้ไหมครับ บ้านของเราแต่ละห้องเนี่ยมีความต้องการความร้อนการจัดการไม่เหมือนกัน อ่ะตัวอย่างง่ายๆ ห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องที่เราต้องการนั่งใช้ทำงาน เราต้องการลดความร้อนให้มากที่สุด แน่นอนพอรู้อย่างนี้ปุ๊บ เราสามารถวางผังได้แล้วครับ แค่จัดการแบบนี้ในข้อแรกเนี่ยบ้านคุณเนี่ยจะเย็นโดยธรรมชาติแล้วนะครับ ตั้งแต่เริ่มต้นในการวางผังและออกแบบบ้าน
ข้อ 2 เรื่องลม
ข้อนี้เป็นหัวใจสำคัญที่สุดครับ คือ เรื่องของลมกับการระบายอากาศถูกไหมครับ เพราะลมที่มีการ Flow ที่ดีเข้ามาในทิศทางที่ถูกต้อง ช่วยการระบายอากาศภายในบ้านได้ ก็จะลดความร้อนถูกไหมครับ
อ่ะประเทศไทยเป็นยังไงประเทศไทยเนี่ยลมจะพัดทางทิศใต้ กับตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 9 เดือน แล้วก็เป็นทิศเหนือ มาจากทิศเหนือและทิศตะออกเฉียงเหนือประมาณ 3 เดือน สลับไปสลับแบบนี้ราวๆ 2 อาทิตย์ครั้ง ทีนี้พอรู้แบบนี้ปุ๊บเราก็ควรจัดการให้มีช่องให้ลมเข้าและลมออก เวลาคุยถึงลมต้องมีช่อง 2 ช่องเสมอนะครับ คือให้ลมเข้าและลมออก ถ้ามีช่องเดียวบ้านคุณเป็นลูกโป่งแน่นอนครับ ด้านไหนครับใต้กับตกเฉียงใต้ออกกับออกเฉียงเหนือ แต่ใต้กับตกเฉียงใต้เนี่ยเป็นทิศร้อนถูกไหมครับถ้าขืนไปใส่หน้าต่างมันก็ไปแย้งกับข้อแรกว่าจะเอาลมแต่ได้แดดมาด้วย แต่ก็ยังสามารถแก้ได้ครับเราก็อาจจะมีช่องเปิดตรงนั้นได้แต่ควรจะมีกันสาดหรือมีระแนง เพราะเราต้องการลมนะครับ เราอาจทำให้เป็นช่องเปิดแต่เราไม่ต้องการแสงเราก็ไปกรองแสงมันซะ
เห็นไหมมันมีวิธีแก้ในการออกแบบเราก็จะได้ลมครับ อ่ามาดูทางทิศเหนือกับออกเฉียงเหนือด้านนี้เราอาจจะไม่ต้องใส่ระแนงกันแล้วเพราะเราส่วนใหญ่จะได้ลม การทำแบบนี้จะทำให้มีช่องทางเข้าและช่องทางออกของลมภายในบ้าน เห็นไหมครับการที่เราจัดการเรื่องแดดได้ดีด้วย ตอนนี้บ้านคุณเนี่ยยังไม่ต้องพูดถึงวัสดุเลยนะเอาแค่การจัดวางแบบเนี้ยคุณได้ทั้งหลักฮวงจุ้ยที่ดี ได้ทั้งการออกแบบที่ดีตามหลักธรรมชาติเลย และพูดถึงระบายอากาศลุงช่างเติมอีกข้อนึงครับ อย่าลืมการระบายอากาศที่หลังคาด้วย เพราะหลังคารับแสงแดดมากที่สุด ให้มีช่องทางเข้าและช่องทางออกของลมที่หลังคาด้วยนะครับ แค่นี้ครับ 2 ข้อนะคุณก็จะได้อุณหภูมิที่ลดลงจากข้างนอกเนี่ย ลุงช่างว่าอย่างน้อย 5 degree
ข้อ 3 เนี่ยเกี่ยวกับหลังคา
คือส่วนที่รับแดดมากที่สุดของบ้านทรงของหลังคามีผลมากเลยครับ มีคนเคยพูดเสมอครับทรงหลังคาที่เป็นทรงเอ่อปั้นหยาหรือจั่วที่มีมุมชัน มุมสูงเนี่ยเป็นทรงที่ดีที่สุด ที่ช่วยลดความร้อน เพราะมุมมันจะมันจะเบี่ยงเบนความร้อนออกไปได้ ทำให้บางมุมไม่รับแสงแดด โดยตั้งฉากนะครับอันที่ 2 คือหลังคาที่มีจั่วในมุมสูงเนี่ยมันทำให้มีห้องใต้หลังคา ทำให้เข้าหลักการของอากาศก็คือว่าอากาศร้อนจะลอยขึ้นสูง ความร้อนมันจะไม่ลงครับ มันจะลอยขึ้นมาที่ยอดหลังคาเพียงแต่เรามีการระบายอากาศที่ดีก็สามารถทำให้อากาศตรงนี้มันออกไปได้แล้ว เช่นการสร้างช่องอากาศเย็นเข้าที่ชายคาแค่นี้แหละครับคุณจะได้การระบายอากาศที่ดีโดยยังไม่ต้องพูดถึงฉนวนไม่ต้องพูดถึงวัสดุเลย
แค่การเลือกหลังคาทรงหลังคาที่ดี การจัดการกับหลังคาที่ดีมีการระบายอากาศที่ดีคุณได้มาอีกหลายแต้มเลย
ข้อที่ 4 วัสดุ
ข้อนี้เรามักจะมองกันก่อนเลย เวลาถามคำถามเนี่ยทุกคนจะข้ามมาข้อ 4 หมดเลย คือใช้วัสดุอะไรครับใช้ฉนวนอะไรครับ ข้อ 4 เนี่ย แน่นอนครับเราจัดการเรื่องการออกแบบเรื่องทรงหลังคาอะไรหมดแล้วข้อ 4 ช่วยได้แน่นอน คือวัสดุ ไล่มาตั้งแต่วัสดุมุงหลังคา สีหลังคา แล้วยิ่งสีหลังคาเดี๋ยวนี้มีสีพิเศษที่ลดความร้อนสะท้อนความร้อนไม่ให้ความร้อนส่งผ่านอันนี้คือการเลือกใช้วัสดุเห็นไหมครับ ชนิดของหลังคาแน่นอนเราคุยกันมาหลายรอบแล้ว กระเบื้องหรือเซรามิคดีกว่า เมทัลชีทอยู่แล้วอันนี้เราก็รู้อยู่แล้วเรื่องหลังคาเสร็จ การใส่ฉนวนก็เป็นการเลือกเอาวัสดุมาช่วยถูกไหมครับ ผมกำลังจะพูดภาพรวมว่าการเลือกวัสดุเนี่ยไล่ลงมาตั้งแต่หลังคาเนี่ยมีอะไรบ้างนะครับ จบละชุดหลังคาจบละ ต่อไปมีอะไรอีกครับผนัง ซึ่งผนังที่กันความร้อนได้ดี คือ ผนังอิฐมวลเบาอันนี้เรารู้กันอยู่แล้วนะครับ ก็อาจจะเลือกใช้ผนังมวลเบาหรือผนังโฟม คือผนังโฟมเนี่ยเป็นผนังช่วยจัดการเรื่องนี้ได้ดีที่สุดแต่อาจจะเป็นเรื่องความยุ่งยากในการก่อสร้าง ความแข็งแรง ก็ถ้าเอาเฉพาะกันความร้อนผนังโฟมดีที่สุดเพราะมันมีคุณสมบัติแบบนั้น แต่ถ้าเป็นผนังก่อ มันก็จะเป็นผนังของมวลเบา ต่อไปก็สีเดี๋ยวนี้สีก็มีคุณสมบัติกันความร้อน เช่น สีภายนอกลดความร้อนสะท้อนความร้อนนี่ก็คือการเลือกใช้วัสดุนะครับ กระจกประตูหน้าต่างอ่ามันก็มีกระจกประเภทเค้าเรียก low e สามารถลดการเอ่อแผ่รังสีความร้อนเข้ามาในบ้านได้ คือวัสดุทุกตัวเนี่ย ที่เกี่ยวการลดความร้อน มันมีวัสดุทางเลือกเสมอ เราก็เพียงแต่เลือกดูคุณสมบัติพวกเนี้ยนะครับมันก็จะมาช่วยลดภาระความร้อนในบ้านลงได้อันนี้พูดรวมๆ ตั้งแต่หลังคาลงมายันผนังยังประตูหน้าต่างความหมายคือการเลือกวัสดุนะครับซึ่งมีให้เลือกเยอะมากนะครับ
แล้วก็สุดท้ายข้อที่ 5 นะครับ
เราอาจจะนึกไม่ถึงแต่จริงๆ ช่างเคยให้คำตอบสำหรับหลายคำถามในเรื่องที่บอกว่าผนังโดนความร้อนเยอะๆ แล้วไม่รู้จะทำยังไงแก้ยังไงมันร้อนค่ะมันร้อนค่ะ!! ก็มันหลักการง่ายๆ ว่ามันร้อนเพราะอะไรล่ะครับ ก็ผนังมันโดนแสงแดดตลอดเลยค่ะ!! ผมบอกจะมาหาวัสดุมันก็ยุ่งยากเอ๊ะเราลดความร้อนกันดีไหม อ้าวทำไงคะ คุณแค่ปลูกต้นไม้ครับ ถ้าคุณมีที่ดินสักนิดนึงผนังที่เคยโดนแดด 100% มีต้นไม้มาช่วย 50% แดดที่กระทบผนังเหลือแค่ 50% ง่ายๆเลยครับ ความร้อนมันลดลงอยู่แล้วเพราะฉะนั้นข้อที่ 5 นี้คือการจัดการโดยใช้สิ่งที่เรียกว่าสีเขียว หากบ้านไม่มีพื้น ไม่มีดิน เอากระถางก็ได้ครับ เอาไม้ต้นแค่กลางๆนี้ก็ได้ครับแค่สูงขึ้นมาเมตร เมตรกว่าๆ เนี่ย เอามาตั้งริมผนังเนี่ยคุณลดผลกระทบของแสงแดดที่จะไปถึงผนังนี่หลาย 10% แล้วนะครับเห็นไหมครับใช้หลักแบบนี้ครับ เข้ามาจัดการยิ่งถ้าคุณมีที่ มีทาง สามารถจะปลูกต้นไม้ เลือกชนิดต้นไม้ที่เอามาบังแดดรถแดดได้ นอกจากลดแดดนะต้นไม้มีคุณสมบัติในการกรองลมที่ผ่านต้นไม้ด้วย ซึ่งจะเป็นลมที่เย็นข้อนี้คุณน่าจะรู้กันอยู่แล้วโดยธรรมชาติและความ Feeling ของของลมที่ผ่านต้นไม้มา จะเย็นลงแน่นอนนะครับเพราะฉะนั้นถ้าสามารถใช้พวกนี้มาช่วยได้ คุณก็จะใช้ธรรมชาติมาช่วยบำบัดความร้อนในบ้านคุณได้ ถ้าทำครบทั้ง 5 ข้ออาจจะไม่ถึง 10 องศาตามที่ลุงช่าง แต่มั่นใจได้เลยว่าคุณเดินจากข้างนอกเข้ามาข้างในบ้านน้อยๆ 5 องศาคุณต้องได้ลุ้น รับรู้ความเย็นที่ดีขึ้นอุณหภูมิที่ลดลงนะครับนั่นคือบ้านให้ความรู้สึกที่เย็นขึ้น 5 ข้อนี้เราไม่ได้คุยกันที่ระบบเครื่องปรับอากาศนะครับ เราคุยเรื่องที่ทำยังไง เราจะจัดการบ้านของเราให้มันเย็นลงนะครับ สู้กับความร้อนของโลกเรา สู้ความร้อนของแสงอาทิตย์ที่เมืองไทย เราอยู่ในเขตศูนย์ศูด ใช้ความรู้แก้ปัญหา แก้ไม่ได้หรือแก้ไปแล้วยังไม่พอ ค่อยใช้เงินไปซื้อแอร์ โอเคไหมครับ อันนั้นเป็นสิ่งสุดท้ายมันอาจจะดูง่ายที่สุดแต่ว่าใช้ความรู้ก่อนใช้ข้อมูลก่อนนะครับ
บริษัท ซีเอชเค ให้บริการรับเหมาก่อสร้างในเกาะสมุย เราเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างในเกาะ ส มุ ย ที่ให้บริการมามากกว่า 15ปี ด้วยทีมช่างที่มากประสบการณ์ในงานก่อสร้าง ติดต่อเรา โทร. 063 841 9593 Line: samuifix
